tips-health

เบาหวาน เสี่ยงโรคทางระบบประสาท ถึงขั้นเสียชีวิต โรคเบาหวานเป็นภาวะที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสมจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน โดยเฉพาะระบบประสาทที่อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นการดูแลรักษาและป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยทุกคน . โรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยแบ่งเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ โรคสมองขาดเลือด เกิดจากเส้นเลือดเสื่อมสภาพจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และโรคปลายประสาทอักเสบ เกิดจากเส้นประสาทที่ถูกทำลายเพราะน้ำตาลสูงเป็นเวลานาน อาการเริ่มจากชามือเท้าและอาจลามจนแขนขาอ่อนแรงได้ . การสังเกตอาการเบื้องต้น เช่น พูดลำบาก ปากตก […]

เบาหวานขึ้นตา เสี่ยงตาบอด รู้ทัน ป้องกันได้ เบาหวานขึ้นตาเป็นภาวะที่เกิดจากโรคเบาหวานทำร้ายหลอดเลือดเล็ก ๆ ที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา เมื่อหลอดเลือดเหล่านี้ตีบ ตัน หรือฉีกขาด การมองเห็นก็เริ่มเปลี่ยนไป บางคนเห็นภาพไม่ชัด ภาพบิดเบี้ยว หรือรุนแรงจนตาบอดได้ . ในช่วงเริ่มแรก หลายคนแทบไม่รู้ตัว อาจเพียงพร่ามัวเล็กน้อย หรือพบโดยบังเอิญระหว่างตรวจตา นั่นจึงทำให้การตรวจตาปีละครั้งเป็นสิ่งสำคัญมาก

กินเจ เลือกผัก ผลไม้อย่างไรให้เหมาะสม ผู้ป่วยโรคไตที่อยากเปลี่ยนมาทานอาหารเจหรือมังสวิรัติ ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกผักและผลไม้ เพราะการเลือกให้เหมาะ จะช่วยชะลอการเสื่อมของไต และลดภาระในการกำจัดแร่ธาตุ เลือกผักโพแทสเซียมต่ำ เช่น แตงกวา มะเขือยาว มะเขือเปราะ มะระ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี เห็ดหูหนู บวบ ผักบุ้ง หอมใหญ่

5 เทคนิคคุมโซเดียม สำหรับผู้ป่วยไตเสื่อม โซเดียมมีความสำคัญต่อร่างกายในการควบคุมสารน้ำ ความดันโลหิต และการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของกรมอนามัยพบว่าคนไทยบริโภคโซเดียมสูงเกินกว่าปริมาณที่แนะนำถึง 2 เท่า โดยปริมาณที่เหมาะสมคือไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่าเกลือแกงประมาณ 2 ช้อนชา . สำหรับผู้ป่วยโรคไตเสื่อม การบริโภคโซเดียมสูงจะส่งผลเสียร้ายแรง เช่น

5 อาการสัญญาณเตือนโรคหัวใจ โรคหัวใจเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตทั่วโลก การสังเกตสัญญาณเตือนเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของโรค โดยมี 5 อาการสำคัญที่ควรระวังและไม่ควรมองข้าม อาการแน่นหน้าอกตรงกลาง หรือจุกใต้ลิ้นปี่ ร้าวไปถึงไหล่และคอ รู้สึกเหมือนมีของหนักทับ อาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ ซึ่งในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวอาจเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว อาการเป็นลม หมดสติชั่วคราว เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาการเจ็บหน้าอกคล้ายถูกมีดแทง อาจเป็นสัญญาณของเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

4 ขนมหวาน โรคไต ระยะ 1 – 5 ทานได้ ผู้ป่วยโรคไตสามารถรับประทานขนมหวานได้ หากเลือกรับประทานอย่างเหมาะสมและในปริมาณที่จำกัด โดยหัวใจสำคัญคือการเลือกขนมที่ทำจากแป้งปลอดโปรตีน เพื่อไม่ให้ไตทำงานหนักขึ้น . สำหรับขนมที่ผู้ป่วยโรคไตระยะ 1-5 สามารถรับประทานได้ มีดังนี้ สาคูเปียก: เนื่องจากทำมาจากแป้งปลอดโปรตีน จึงปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยโรคไตทุกระยะ

สาเหตุหลัก ที่ทำให้ไตเสื่อม แม้ไม่ทานเค็ม ก็เสี่ยงได้ ภาวะไตเสื่อมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุนอกเหนือจากการบริโภคเค็ม โดยมี 3 สาเหตุหลักที่ควรตระหนักถึง ได้แก่ ภาวะเบาหวานลงไต การไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (Fasting Blood Sugar ไม่เกิน 126 mg/dl หรือ HbA1c ไม่เกิน

ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ควรเลี่ยงการกินผักดิบ การรับประทานผักดิบ แม้จะอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่ดีต่อร่างกาย แต่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งแล้วอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยนัก เนื่องจากมีเหตุผลสำคัญหลายประการที่ควรพิจารณา . ประการแรกคือความเสี่ยงในการติดเชื้อ ผู้ป่วยมะเร็งมักมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา ทำให้เสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียหรือพยาธิที่อาจปนเปื้อนมากับผักดิบ แม้จะล้างอย่างดีแล้วก็ตาม ประการต่อมาคือความเสี่ยงจากสารเคมีตกค้างทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ผักดิบบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มกะหล่ำ ยังมีสารที่ยับยั้งการดูดซึมไอโอดีน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์

ปาท่องโก๋ ซาลาเปาทอด โรคไตระยะ 3B-5 ทานได้หรือไม่   ปาท่องโก๋และซาลาเปาทอดเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในมื้อเช้าและเป็นของว่าง แม้ว่าจะเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและหาซื้อได้ง่าย แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตในระยะ 3B ถึง 5 ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดังกล่าวจะดีที่สุด . เนื่องจากอาหารประเภทนี้มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ในกระบวนการหมักแป้งเพื่อให้มีความนุ่มฟู มักมีการเติมยีสต์และผงฟูซึ่งเป็นแหล่งของโซเดียมแฝง

PM 2.5 ฝุ่นร้าย เสี่ยงมะเร็งปอดไม่รู้ตัว ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กที่แฝงไปด้วยอันตรายร้ายแรง เนื่องจากมีขนาดที่เล็กมากจึงสามารถผ่านการกรองของขนจมูกและเข้าไปสะสมลึกถึงปอดได้ แม้ผลกระทบอาจไม่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่การสะสมในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ฝุ่นชนิดนี้เป็นตัวกลางนำพาสารอันตรายต่างๆ เช่น สารก่อมะเร็งและโลหะหนัก เข้าสู่ร่างกายของเราได้ . แหล่งกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 มาจากการจราจร