โรคไต ดื่มน้ำ อะไรได้บ้าง

💧โรคไต ดื่มน้ำอะไรได้บ้าง💧

โรคไตเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องใส่ใจทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เพราะสิ่งที่รับประทานมีผลโดยตรงต่อการทำงานของไต หลายคนมักสงสัยว่า นอกจาก “น้ำเปล่า” แล้ว ยังมีเครื่องดื่มชนิดใดที่ผู้ป่วยโรคไตสามารถดื่มได้บ้าง

ปัจจุบันมีเครื่องดื่มหลายประเภทในท้องตลาด ทั้งที่เติมสี กลิ่น วิตามิน หรือแร่ธาตุเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไต เครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายได้รับสารเกินความจำเป็นและเร่งให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและลดภาระการทำงานของไต


การจำกัดน้ำดื่มในผู้ป่วยโรคไต

ระยะที่ 1–2

ค่า eGFR ≥ 60 ถือเป็นระยะเริ่มต้นของโรค ไตยังทำงานได้เกือบปกติ ผู้ป่วยสามารถดื่มน้ำเปล่าได้วันละ 1.7–2 ลิตร งานวิจัยพบว่าการดื่มน้ำในปริมาณนี้ช่วยคงค่า eGFR ให้นิ่งหรือดีขึ้น ในขณะที่การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น

ระยะที่ 3–4

ค่า eGFR 15–59 เป็นช่วงที่ไตเริ่มทำงานลดลงชัดเจน การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ไตทำงานหนัก แนะนำดื่มวันละ 1–1.5 ลิตร หรือปรับตามคำแนะนำของแพทย์

ระยะที่ 5 และระยะฟอกไต

ค่า eGFR ≤ 29 หรือผู้ที่อยู่ในระยะฟอกไต ควรจำกัดปริมาณน้ำอย่างเข้มงวด เพราะไตไม่สามารถขับน้ำส่วนเกินได้ดี การดื่มมากเกินไปอาจเกิดภาวะน้ำเกิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อหัวใจและปอด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินปริมาณที่เหมาะสม


เครื่องดื่มที่เหมาะสมในแต่ละระยะของโรคไต

ระยะที่ 1–3A

ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 1.7–2 ลิตร เลือกเครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำตาลและไม่มีครีมเทียมหรือไขมันสูง อ่านฉลากโภชนาการทุกครั้ง ควรเลือกเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อย และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ใส่นมข้นหวานหรือท็อปปิ้ง เช่น ครีมชีส ไข่มุก วิปครีม หากต้องการดื่มกาแฟหรือชา ควรสั่งแบบหวานน้อยหรือไม่ใส่น้ำตาล ไม่เกินวันละ 1 แก้ว

หากมีโรคร่วม เช่น เบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง ควรเน้นดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก และหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้หรือนมปรุงแต่ง เพราะน้ำตาลและไขมันสูงจะเร่งให้ไตเสื่อมเร็ว

ระยะที่ 3B–5 และระยะฟอกไต

ควรหลีกเลี่ยงนมทุกชนิด ทั้งนมวัว นมถั่วเหลือง และนมอัลมอนด์ เพราะมีฟอสฟอรัสสูง และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มอัดก๊าซ โคล่า น้ำผลไม้ เพราะมีโพแทสเซียมและน้ำตาลสูง ซึ่งอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและไตเสื่อมเร็วขึ้น


ประเภทของเครื่องดื่มและคำแนะนำ

1. น้ำเปล่า และน้ำแร่ธรรมชาติ

น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคไตทุกระยะ ส่วน “น้ำแร่ธรรมชาติ” ควรระวังเพราะมีโซเดียมและแคลเซียมสูง เหมาะกับระยะ 1–3A เท่านั้น ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยง

2. น้ำโซดา
 
ดื่มได้ทุกระยะรวมถึงผู้ที่ฟอกไต เพราะไม่มีน้ำตาลและไม่เพิ่มภาระต่อไต แต่ควรจำกัดไม่เกินวันละ 1 แก้ว (250–300 มิลลิลิตร) เนื่องจากอาจทำให้แน่นท้องหรือกรดไหลย้อน


3. นมจากสัตว์

ระยะ 1–3A ดื่มนมพร่องมันเนยได้วันละ 1 แก้ว แต่ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยง เพราะมีฟอสฟอรัสสูง เสี่ยงภาวะกระดูกพรุนในระยะยาว

4. นมจากพืช

รสจืด เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ ดื่มได้ในระยะ 1–3A วันละไม่เกิน 1 แก้ว แต่ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยงเพราะมีโพแทสเซียมสูง

5. ชา กาแฟ โกโก้

ระยะ 1–3A ดื่มได้วันละไม่เกิน 1 แก้ว แบบไม่ใส่นมข้นหรือน้ำตาล ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยง เพราะมีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง

6. น้ำสมุนไพร

สูตรไม่ใส่น้ำตาล เช่น น้ำใบเตย น้ำเก๊กฮวย น้ำอัญชัน ดื่มได้ทุกระยะ แต่ถ้ามีน้ำตาลควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานร่วมด้วย

7. น้ำผลไม้
 

ระยะ 1–3A ดื่มคั้นสดไม่เติมน้ำตาลได้เป็นครั้งคราว ปริมาณไม่เกิน 100–150 มิลลิลิตรต่อวัน ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยงทุกชนิด เพราะมีโพแทสเซียมและน้ำตาลสูง

8. เครื่องดื่มน้ำอัดลม

ไม่แนะนำในทุกระยะ เพราะมีฟอสเฟตและกรดฟอสฟอริกสูง ทำให้ไตเสื่อมเร็วและกระดูกพรุน

9. เครื่องดื่มชูกำลัง
 
ควรงดทุกระยะ เนื่องจากมีคาเฟอีน น้ำตาล และโซเดียมสูง ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและเพิ่มภาระต่อไต
10. เครื่องดื่มคอลลาเจน

ระยะ 1–3A ดื่มได้เฉพาะเมื่อแพทย์อนุญาต ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรงด เพราะมีโปรตีนสูงและทำให้ยูเรียในเลือดเพิ่มขึ้น

11. เครื่องดื่มโปรตีน

ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต ยกเว้นสูตรเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่แพทย์สั่ง เพราะเครื่องดื่มโปรตีนทั่วไปมีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง

12. อาหารเสริมทางการแพทย์

ควรเลือกสูตรเฉพาะสำหรับโรคไตเท่านั้น หากยังไม่ฟอกไตให้เลือกสูตรก่อนฟอกไต ส่วนผู้ที่ฟอกไตแล้วให้เลือกสูตรสำหรับฟอกไตโดยเฉพาะ

13. รังนกและซุปไก่สกัด

ระยะ 1–3A ดื่มได้เป็นครั้งคราวในปริมาณเล็กน้อย (ไม่เกินสัปดาห์ละ 1–2 ขวด) ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยง เพราะเพิ่มของเสียในเลือด

14. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไม่แนะนำในทุกระยะ เพราะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเพิ่มภาระต่อการกรองของไต

15. เครื่องดื่มเติมวิตามินและเกลือแร่

ระยะ 1–3A ดื่มได้เป็นครั้งคราวถ้าไม่มีน้ำตาลและโซเดียมสูง ระยะ 3B–5 และฟอกไตควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเกลือแร่คั่งในเลือดและความดันสูง

 

สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยดูแลไตและเบาหวาน แนะนำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร UMI 💚 ที่มีสารสกัดฟูคอยแดนเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพไต เบาหวาน และเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายค่ะ 💪

 

สั่งซื้อตัวช่วยดูแลไต UMI💚

ทักจอยมาได้เลยค่ะ 😸 จอย 24Gel

🌟🌟🌟

GEL Plus: UMI HRT EXO GRN MIN FLX

Line:@24gel

อยากดูแลตับ ไต เบาหวาน
Click : https://www.24gel.com/kidneycare
อาหารเสริมเจล ความทันสมัยของคนยุคใหม่ สะดวก ทานง่าย อร่อย ดูดซึมใน 3-15 นาที เทคโนโลยีขั้นสูงสุดของโลก เจ้าแรกและเจ้าเดียวที่พิสูจน์แล้ว

สอบถาม สั่งซื้อ Line@ : https://line.me/R/ti/p/%4024gel (คลิ๊กเลย)
Line : @24gel (ใส่@นำหน้าด้วยนะคะ 😀 )

Shopping Cart